:ฺ:::::: Brainwave กับกระบวนการเรียนรู้ของเด็กๆ ::::::::::
วันนี้นำเสนอเรื่อง Brain wave (เรื่องเก่าที่เคยแชร์มาเล่าใหม่) ในศาสตร์ด้าน Dialogue หรือศาสตร์ของการดูแลจิตใจและชีวิตที่เคยได้ผ่านการสัมมนามามักจะพูดถึงเรื่องของคลื่นสมอง หรือแม้แต่หนังสือ How to tran your brain to be genius ก็ได้พูดถึงเรื่องนี้เช่นกัน
เรื่องมีอยู่ว่า…
ทำไมเวลาจะสอนทำกิจกรรมกับเด็กๆ ต้องให้เค้าอยู่ในอารมณ์ที่สงบแล้วมีความสุขกับสิ่งที่ได้ทำ เนื่องจากว่าสมองมีคลื่นของมันด้วยค่ะ 4 ระดับตั้งแต่เบต้า อัลฟ่า เทต้า เดลต้า ตามในรูป ยิ่งคลื่นสมองวิ่งมากเท่าไรถี่มากเท่าไรสมองจะปิดรับการเรียนรู้ได้มากเท่านั้น
อันนี้จึงเป็นที่มาที่ไปว่าทำไมเวลาสอนเด็กๆนั้น เราจะต้องทำให้เค้าอยู่ในอารมณ์โหมดที่ปกติ สบายๆ ชิลล์ๆ และเป็นเหตุผลว่าทำไมบางทีจึงมีเปิดเพลงเบาๆให้เด็กๆได้ฟังด้วยระหว่างสอน หรือต้องใช้เพลงโมสาดหรือเพลงสบายๆ ให้เบบี้ หรือแม่ตั้งครรภ์ฟัง
ในอีกประเด็นหนึ่งคือเวลาที่เราดุเด็กๆ ตวาดเสียงดัง แล้วเค้าเกิดร้องวีดหรือร้องไห้ขึ้นมาเหตุนี้แหละค่ะที่ผู้เชียวชาญหรือหมอมักจะบอก ว่าอย่าพูดหรือสอนอะไรในช่วงสเตรทเบต้านี้ เพราะสมองอยู่ในโหมดเบต้า การเรียนรู้รับรู้ข้อมูลของสมองมีน้อยมาก รอให้เค้าสงบลงด้วยการดูแลความรู้สึกเค้าก่อน แล้วค่อยๆสอน ค่อยๆบอกกัน ดังนั้นพ่อๆแม่ๆก็อย่าเอาโหมดเบต้าสอนลูกด้วยเช่นกัน ไม่เกิดประโยชน์แน่ๆค่ะ
เรื่องนี้ไม่ใช่แค่กับเด็กๆเท่านั้นเราๆผู้ใหญ่เองเมื่อรู้ตัวว่ากำลังอยู่ในคลื่นสมองของเบต้าทำงาน เช่น กลัว กังวล เครียด โกรธ เศร้า หาวิธีการที่เราจะสามารถทำให้อยู่ในโหมดอัลฟ่าให้ได้ค่ะ (ลองหาวิธีที่เหมาะกับตัวเราเช่น ฟังเพลง นั่งพัก นอนสักงีบ ไปอาบน้ำ ไปนวด อ่านหนังสือที่ชอบ) แล้วค่อยตั้งสติ ลองทำใหม่อีกครั้ง สังเกตุง่ายๆเวลาอึ เวลาอาบน้ำเราชิลล์ๆมักจะคิดอะไรออกในห้องน้ำตลอด
ถ้าให้สรุปในทางพุทธศาสนาสั้นๆง่ายๆ คือเมื่อเรามีสมาธิ สติ เราก็จะเกิดปัญญาอ่ะจ้า
ทีนี้เราก็จะเข้าใจมากขึ้นว่าอะไรก็ตามที่เค้าเล่นเค้าทำแล้วเค้ามีความสุข มีสมาธิกับสิ่งนั้น เค้าจะได้เรียนรู้สิ่งนั้นมากที่สุดน่ะค่ะ
referrence เพิ่มเติม จากhttp://www.meditationsuk.com/resources/brainwave_states.htm
http://www.oknation.net/blog/print.php?id=440791
Baannada The Coach 